โดยอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ AC111
ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์
รถยนต์ซูบารุในระยะหลังกลับมาคึกคักได้อย่างน่าสนใจยิ่ง อาจจะเป็นเพราะได้มือดีอย่าง ตะวัน คำฤทธิ์ กลับมาอยู่กับซูบารุอีกครั้ง หลังจากที่ทำผลงานไว้อย่างมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากเรื่องของคนที่ใช่กลับมาทำในสิ่งที่ชอบแล้ว ตัวสินค้าเองก็มีความน่าสนใจมากขึ้น จากการที่พัฒนา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด อย่างรุ่นที่มีการทำตลาดอยู่แล้วอย่างซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) ที่แม้ว่าจะทำยอดจำหน่ายในระดับที่น่าพอใจแต่ทางซูบารุก็ไม่รอช้า ส่งรุ่นที่มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เรียกว่าอายไซน์ (Eyesight) มาเสริมทันทีเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและได้ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
มาเริ่มทำความรู้จักกับระบบเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ Eyesight กันก่อนเลยแล้วกัน เพราะระบบนี้คือพระเอกตัวจริงของรถคันนี้ ซึ่งจะคอยช่วยผู้ขับขี่ให้ขับรถยนต์ซูบารุบนถนนได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ย้ำก่อนว่าช่วยนะครับไม่ใช่ระบบขับอัตโนมัติที่จะขับแทนคนขับ อย่างแรกคือระบบเบรกและระบบจัดการกำลังของเครื่องยนต์ก่อนชน ซึ่งระบบนี้จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและสัญญาณไฟกะพริบบนแผงคอนโซลกลางจะติดเพื่อเตือนผู้ขับว่าระบบทำงาน โดยระบบจะหยุดรถเพื่อลดแรงปะทะ และโอกาสที่จะเกิดการชนเมื่อมีรถ คน หรือสิ่งของกีดขวางอยู่ด้านหน้า ซึ่งการจัดการกำลังของเครื่องยนต์นั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการชนด้านหน้า ที่อาจจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นได้ ระบบที่ 2 คือการเตือนเมื่อรถยนต์เบี่ยงออกนอกช่องทางที่ขับขี่ โดยระบบก็จะมีเสียงเตือน และมีไฟกะพริบติดขึ้นที่คอนโซลกลางเพื่อให้รู้ว่าระบบทำงาน ซึ่งระบบจะทำงานทันทีที่รถเริ่มจะออกนอกช่องทางที่ขับเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ทันที อย่างที่ 3 คือระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผันและเตือนรถคันหน้าออกตัว โดยนอกจากจะล็อกความเร็วให้แปรผันตามรถยนต์คันหน้าได้แล้ว ระบบก็จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อรถยนต์คันหน้าออกตัวอีกครั้งด้วย ซึ่ง 3 ระบบที่ว่ามานี้คือระบบที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ยังมีระบบอื่นๆ อีกหลายอย่างทีทางซูบารุมีให้อยู่แล้วในรถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ คันนี้
เครื่องยนต์เบนซินแบบบ็อกเซอร์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน และเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายของซูบารุก็ถูกติดตั้งมาในรถยนต์คันนี้ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้มีจุดเด่นในเรื่องของขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบาแต่ให้สมรรถนะที่สูงในการขับขี่ อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ที่ทำให้มีการกระจายน้ำหนักได้ดี ส่งผลให้มีการเข้าโค้งที่ดีตามไปด้วย 156 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตันเมตรนั้นเพียงพอต่อการใช้งาน อีกทั้งยังมีโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกได้มาให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมถึง 3 ระดับด้วยกัน
โครงสร้างใหม่ของซูบารุก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจทั้งในเรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในด้านอื่นๆด้วย โครงสร้างใหม่ที่ว่านี้ซูบารุเรียกว่าเป็น Global Platform ที่ช่วยให้การบังคับเลี้ยวมีการตอบสนองที่ดี ทำให้ขับขี่ได้เงียบมากขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วยังสามารถช่วยให้ลดการสั่นโคลงได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และสามารถดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้นกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหลายคนที่ยังไม่เคยได้ทดลองขับซูบารุที่เป็นโครงสร้างใหม่ควรลองดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็เป็นอีกจุดที่ซูบารุได้รับการยอมรับว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ เพราะทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งเดิมก็ว่าดีอยู่แล้วแต่ก็พัฒนาให้ดีขึ้นอีก
ความแม่นยำของพวงมาลัยในการควบคุมรถ การเกาะถนนที่ดีของระบบช่วงล่าง ยังคงเป็นจุดเด่นหลักที่ซูบารุรักษาชื่อเสียงไว้ได้เป็นอย่างดี แต่กับซูบารุ ฟอเรสเตอร์ คันนี้มันมีความรู้สึกเพิ่มเติมว่าซูบารุใส่ใจในเรื่องของการเก็บเสียงในห้องโดยสารที่ลดการเข้ามาของเสียงรบกวนตั้งแต่เรื่องของโครงสร้างตลอดจนวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในห้องโดยสาร การประกอบที่มีความเนี้ยบมากขึ้น และความสะดวกสบายต่างๆ ที่เพิ่มมาให้ แม้ว่าความอเนกประสงค์กับความทันสมัยในการออกแบบดูจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ดูล้าหลังจนน่าตกใจ
สำหรับราคาที่ตั้งมาให้นั้นดูเหมือนว่าจะให้ลูกค้าเลือกตัวที่มีเทคโนโลยี Eyesight ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพราะส่วนต่างของราคากับสิ่งที่ได้มานั้นเรียกว่าคุ้มทีเดียว แต่ต้องทำความเข้าใจ และย้ำกันอีกครั้งก่อนว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงแค่ตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มาทำหน้าที่ขับแทนแต่อย่างใด และการจะใช้งานให้คุ้มค่าคุ้มราคาก็ต้องเข้าใจระบบการทำงานต่างๆ เพื่อใช้งานได้อย่างเต็มที่ด้วย…
Subaru Forester
ราคา | 1,450,000 บาท |
เครื่องยนต์ | 1,995 ซีซี เบนซิน สูบนอน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว |
เกียร์ | อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT |
กำลังสูงสุด | 156 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. |
แรงบิดสูงสุด | 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รตน. |
ความยาว | 4,625 มม. |
ความกว้าง | 1,815 มม. |
ความสูง | 1,730 มม. |
น้ำหนัก | 1,545 มม. |
ล้อและยาง | 225/55 R18 |