ติดต่อเรา 02-390-1062-3

Nissan Leaf: รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก

สมาคมอัสสัมชัญ > Online Magazine > Nissan Leaf: รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก

โดย อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ AC111 

ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์

เมื่อเริ่มมีการพูดถึงรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนหรือที่เรียกว่า “อีวี” (EV) ดูจะมีความสนใจเกิดขึ้นมากมายในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมามีการพูดกันมากว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่มันมีหลายปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตัดสินใจว่าเราจะพร้อมใช้รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานเมื่อไหร่ ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะเมื่อย้อนไปดูประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีเองยังไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร แต่มันก็มีอีกหลายแง่มุมให้หาคำตอบก่อนตัดสินใจ เพราะไม่ใช่งานง่ายเลยที่จะตัดสินใจได้

คำถามยอดนิยมเมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งวิ่งได้ระยะทางไกลแค่ไหน ลุยน้ำท่วมขังได้ระดับไหน ชาร์จไฟแต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่ และแน่นอนว่าต้องมีการพูดถึงราคาจำหน่ายด้วย ซึ่งตั้งแต่มีการเปิดตัวรถยนต์ “นิสสัน ลีฟ” อย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็มีเสียงสะท้อนจากหลายคนว่าราคาสูงเกินไป แต่จากที่ลองสังเกตส่วนใหญ่คนที่ต่อว่ามานั้นไม่ได้มีใจเอนเอียงไปในทางที่จะซื้อเป็นเจ้าของเท่าไหร่นัก ดังนั้นเดี๋ยวค่อยมาว่ากันเรื่องนี้จะดีกว่า

นิสสัน ลีฟ เริ่มจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 2010 จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด โดยในปัจจุบันนี้มียอดจำหน่ายรวมทั้งหมดไปแล้วกว่า 400,000 คัน บอกแบบนี้หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นเพราะขายก่อนค่ายอื่น แต่คงไม่ใช่เหตุผลนั้นอย่างเดียวครับ เพราะว่าทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ความปลอดภัย และราคาที่สามารถจับต้องได้ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ขายดิบขายดี โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพราะตั้งแต่มีการจำหน่ายมายังไม่พบว่ามีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถยนต์นิสสัน ลีฟ เลยแม้แต่รายเดียว อีกทั้งเรื่องของแบตเตอรี่ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญก็ยังไม่มีการตรวจพบว่ามีความผิดปกติหรือบกพร่องร้ายแรงเลย   

กลับมาว่ากันด้วยเรื่องสำคัญที่ทำให้นิสสัน ลีฟรุ่นปัจจุบันนี้แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างมากและทำให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เริ่มจากเรื่องของการออกแบบ ที่แต่เดิมในรุ่นก่อนจะดูเหมือนรถยนต์สำหรับแม่บ้าน เป็นรถยนต์ที่เน้นความคุ้มค่า ความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบชัดเจน ส่งผลให้ไม่มีความโดดเด่นเท่าไหร่นัก ที่ขายได้ก็เพราะเรื่องของเทคโนโลยีและความคุ้มค่าล้วนๆ แต่ในรุ่นปัจจุบันนี้ทางนิสสัน ได้มีการปรับเรื่องของการออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตและดูทันสมัยมากขึ้น เรียกว่ารู้จักแก้ในจุดที่มีเสียงสะท้อนจากลูกค้าและพัฒนาให้ดีขึ้น เรียกว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุ้มค่า ประหยัดพลังงานแต่ก็ได้ความสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานที่สามารถขับขี่แบบดุดัน เร้าใจ

นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) ความเร็วสูงสุดก็สามารถทำได้มากกว่า 150กิโลเมตรต่อชั่วโมงสบายๆ ยิ่งเรื่องอัตราเร่งแล้วต้องบอกว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ ทั้งในตอนต้นและเร่งความเร็วในช่วงกลาง เสียงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าอาจจะฟังดูเร้าใจแต่สมรรถนะที่โชว์ออกไปมันสวนทางกันนะครับ

ระบบคันเร่งแบบ “อี-แพดเดิล” (e-Pedal) ก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างที่มีอยู่ในนิสสัน ลีฟคันนี้ เพราะผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้เพียงแค่เท้าขวาอย่างเดียว โดยการใช้การควบคุมน้ำหนักของคันเร่งเป็นสำคัญ ซึ่งการขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติแบบทั่วไปจะต้องใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า และยกเท้าจากคันเร่งมาเหยียบที่แป้นเบรกถ้าต้องการชะลอความเร็วหรือหยุดนิ่ง แต่ในระบบอี-แพดเดิลนั้นสามารถควบคุมการเคลื่อนไปข้างหน้าและการชะลอจนถึงหยุดนิ่งของรถด้วยเท่าขวาเพียงข้างเดียวเท่านั้น ข้อดีของมันก็คือลดอาการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่เพราะไม่ต้องยกเท้าไปมาเพื่อเหยียบแป้นเหยียบ ผลที่ได้อีกอย่างคือเมื่อใช้งานจนเกิดความคล่องแล้วจะทำให้รถยนต์เคลื่อนที่และหยุดนิ่งได้นุ่มนวลมากขึ้น ส่วนในเรื่องของสมรรถนะก็ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ และเมื่อชินแล้วก็จะทำได้ดีกว่าการใช้คันเร่งและเบรกในแบบปกติด้วยซ้ำ เพราะจากการขับแบบยิมคาน่า (Gymkhana) ที่เปรียบเทียบระหว่างการขับแบบใช้อี-แพดเดิล  กับการขับแบบปกติ ผลปรากฏว่าใช้อี-แพดเดิลสามารถทำเวลาได้ดีกว่า 

การจะใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นคงต้องเรียนรู้ก่อนจะเริ่มใช้ เพราะลักษณะการใช้งานต้องมีการวางแผนการเดินทางเพื่อให้ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการประเมินปริมาณของไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่ใช้ขับเคลื่อนเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย สิ่งต่อมาคือการพึ่งพาตนเองเป็นอันดับแรก เพราะการใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องมีความพร้อมก่อนในเรื่องจุดชาร์จไฟต่างๆ ตามที่สาธารณะ โดยไม่จำเป็นต้องแวะชาร์จทุกวันหรือทุกครั้งก็ได้ เพราะเมื่อปริมาณไฟฟ้าเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งจุชาร์จสาธารณะอีก แต่ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน

ความพร้อมของตัวสินค้าประกอบกับความพร้อมของผู้แทนจำหน่ายทั้งในเรื่องของการขายและการดูแล การบริการหลังการขาย ทำให้นิสสัน ลีฟใหม่นั้นน่าสนใจมากที่สุดในกลุ่มของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเชื่อว่าคงมีการบ้านไปคิดกันต่อว่าทำอย่างไรให้ราคาลดลงมาสู้กับคู่แข่งในตลาดได้อย่างสนุก………………………

4,480 มม.

Nissan Leaf
ราคา 1,990,000 บาท
มอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous + แบตเตอรี่แบบลิเธียม + ไอออน
เกียร์ Single Speed Gear Roduction
กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ ที่ 3,283-9,795 รตม.
แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0-3,283 รตม.
น้ำหนักรถ 1,523 กก.
ความยาว 4,480 มม.
ความกว้าง 1,790 มม.
ความสูง 1,540 มม.
ฐานล้อ 2,700 มม.
ความสูงจากพื้นรถ 150 มม.
ล้อและยาง 215/50 R17 91V
ความจุสัมภาระ 435 ลิตร
ระยะทางที่ขับได้ 311 กิโลเมตร (NEDC mode)

วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

เจ้าของนิสสัน ลีฟ สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ได้ถึง 3 วิธีหลักๆ ประกอบด้วย การชาร์จจากไฟบ้านปกติ (standard outlet charging) การชาร์จจากอุปกรณ์ชาร์จติดผนัง หรือ wall box charging รวมถึงการชาร์จแบบด่วนหรือที่เรียกว่า Quick Charge รายละเอียดมีดังนี้

• การชาร์จจากไฟบ้านปกติ (standard outlet charging) เช่นเดียวกับการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จสมาร์ทโฟน ซึ่ง 80-90 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของรถนิสสัน ลีฟ ส่วนใหญ่ เลือกที่จะชาร์จรถยนต์ที่บ้านโดยใช้เคเบิลอเนกประสงค์ (EVSE cable) ที่มาพร้อมกับรถยนต์ โดยส่วนมากเป็นการชาร์จแบบข้ามคืน ใช้เวลาชาร์จประมาณ 12-16 ชั่วโมง

• การชาร์จจากเครื่องชาร์จไฟฟ้า หรือ wall box charging จากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือในที่ๆ อื่นๆ ที่มีการติดตั้ง ซึ่งจะสามารถชาร์จไฟฟ้าให้เต็มได้ภายในระยะเวลา 6-8 ชั่วโมง

• การชาร์จแบบด่วนหรือที่เรียกว่า Quick Charge เป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง โดยใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 40-60 นาทีเพื่อชาร์จให้แบตเตอรี่มีความจุที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่มักมีติดตั้งในพื้นที่ที่ชาร์จสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือที่สาธารณะต่างๆ