ติดต่อเรา 02-390-1062-3

ติดตาความรู้ ต่อกิ่งคุณธรรม… เพราะชีวิต และความสำเร็จไม่ควรวัดกันแค่ถ้วยรางวัล

สมาคมอัสสัมชัญ > Online Magazine > ติดตาความรู้ ต่อกิ่งคุณธรรม… เพราะชีวิต และความสำเร็จไม่ควรวัดกันแค่ถ้วยรางวัล

เรื่องโดย ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

ผมคิดว่ากีฬาน่าจะสร้างคนได้ ผมจะใช้กีฬาเป็นตัวเชื่อมระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ครอบครับ โรงเรียน ทำให้เกิดความรักใคร่ ปรองดองกัน ผมจะเอาสิ่งที่ผมถนัดมาใช้ และผมจะทำทีมวอลเลย์บอลอัสสัมชัญ

คำพูดที่ออกจากปาก สักกะพงษ์ บุญมี อัสสัมชนิกเลขประจำตัว 28008 รุ่น 99 ที่กล่าวกับ ภราดา ดร.เดชาชัย ศรีพิจารณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญในขณะนั้น จนมาถึงวันนี้ใช้เวลากว่า 7 ปี คำพูดนั้นได้สะท้อนตัวมันเองจนเป็นเสียงที่ดังกึกก้อง และสร้างความยิ่งใหญ่ในตัวเองได้ขึ้นมาจริงๆ เนื่องจากผ่านมา 3 ปีจากวันที่สักกะพงษ์ได้กล่าวคำพูดนั้นออกไป ก็มีชื่อของทีมกีฬาวอลเลย์บอลชายรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี โรงเรียนอัสสัมชัญ คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาจนได้ และยังสร้างชื่อเสียงต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ในรายการอื่นๆ ของปีต่อมา

เมื่อย้อนกลับไปในวันที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นที่จะทำทีมวอลเลย์บอล ก็ได้รับคำตอบจากปากสักกะพงษ์ว่า ผมจำได้เหมือนตอนนั้นอัสสัมชัญจะเกิดปัญหา บราเดอร์หลุยส์ภราดาวิริยะ ฉันทวโรดม ได้ขอให้เข้ามาช่วยเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา (School Board) และเมื่อผมเข้ามาทำงานในจุดนี้ ก็เริ่มเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงเรียน ทั้งความไม่เป็นระเบียบ การไม่เคารพในกฎเกณฑ์ของนักเรียน รวมถึงการไม่มีความปรองดอง ขณะที่ความอบอุ่นที่เคยมีเริ่มหายไป จนต้องคิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยให้ชื่อเสียงของโรงงเรียนกลับมา พร้อมไปกับการให้นักเรียนเข้าใจและรู้รักสามัคคีกัน 

กว่า 40 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนอัสสัมชัญ

จนไปสรุปอยู่ที่การทำทีมวอลเลย์บอล โดยอาศัยการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเก่าทีมโรงเรียนของตัวเองนั้น เป็นพื้นฐานให้กับเด็กๆ ที่จะเข้ามาอยู่ในทีม และเมื่อเริ่มทำงานอย่างจริงจัง นอกจากหานักกีฬาแล้วอีกสิ่งหนึ่งก็คือการหาโค้ชเพื่อทำช่วยการฝึกสอน โดยโจทย์ที่ตั้งไว้ตอนแรกคือ อยากได้โค้ชที่เคยเป็นทีมชาติ อายุไม่เยอะ มีพฤติกรรมที่ดี ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ และต้องมาเป็นครูในโรงเรียนด้วย แต่เมื่อตั้งเงื่อนไขไว้สูง ก็ต้องยอมรับกับการผิดหวัง

เมื่อสุดท้ายแล้วหาไม่ได้ตามโจทย์ที่ตั้งไว้ ก็มองในจุดอื่นๆ จนบังเอิญได้คนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก ถึงจะไม่ครบแต่ก็เพียงพอต่อการคุมทีม ซึ่งผมใช้เวลาเรียนรู้กันกว่าครึ่งปี จนรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี จึงตกลงร่วมทำงานด้วยกัน

หลังจากที่ได้โค้ชมาแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือนักกีฬา ซึ่งการทำทีมวอลเลย์บอลครั้งนี้ไม่เหมือนกับทีมทั่วไป เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะให้โอกาสกับเด็กที่ด้อยโอกาส ให้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะเชื่อว่าเด็กเหล่านี้อาจจะมีศักยภาพ แต่ไม่มีช่องทางที่จะทำ ในขณะที่เด็กเก่งๆ อย่างไรก็มีคนอยากได้แน่นอน จึงเริ่มหาเด็กที่จบประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนต่างๆ ทั้งเด็กยากไร้ กำพร้า อยู่ในสังคมหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่สมบูรณ์ แต่มีจิตใจรักดี ใฝ่ดี และขวนขวาย โดยคัดเลือกผ่านการพูดคุยให้รู้ถึงจิตใจกัน ซึ่งไม่ได้มองถึงศักยภาพทางกีฬาที่ควรจะต้องมาเป็นอันดับแรก

ซึ่งการทำทีมครั้งนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากกว่าการทำทีมกีฬาคือ 1) นำเด็กๆที่ด้อยโอกาสมาให้ได้รับความรู้และการศึกษา 2) ฝึกคุณธรรม จริยธรรม 3) นำโครงการกีฬาให้เป็นแบบฝึกหัดให้เด็กๆ มีใจนักสู้ ไม่ยอมแพ้ ทุกคนจะต้องลุกขึ้นใหม่มาให้ได้ตลอด และหวังว่าการปลูกจิตสำนึกนี้จะช่วยให้เด็ก กลับไปทำสิ่งดีๆ ให้กับชุมชนของตัวเองได้ และในช่วงปีแรกก็ใช้เวลาไปกับการตระเวนหาเด็กที่เหมาะสมจะเข้ามาอยู่ในทีม เพื่อจัดตั้งอย่างเต็มรูปแบบ

และในปีที่ 2 จึงเปิดรับนักกีฬารุ่นแรกข้ามา 8 คน รวมทั้งยังเผื่อที่ให้เด็กในโรงเรียนอัสสัมชัญ 4 คน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่เมื่อผลสอบออกมา เด็กในฯก็หายตัวไปและไม่มาซ้อมอีกเลย จึงต้องพึ่งพาเด็กที่มาจากนอกโรงเรียนเพื่อเดินหน้าทำทีมต่อ ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่ฝึกหนักมาก ผมไม่ให้เด็กกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลยในช่วงปิดเทอม รวมถึงซัพพอร์ตให้ทุกอย่าง อยากให้เด็กคิดว่าอยู่กับครอบครัว แต่กลับเป็นการดูแลที่มากเกินไป เหมือนเด็กได้รับการตามใจจนติดเป็นนิสัยจึงไม่เต็มที่การกับฝึกซ้อมหรือการเล่น ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันในทีมอยู่ ไม่ว่าจะการรับบอล ต่อบอลต่างๆ

การซัพพอร์ตมากเกินไปก็เป็นปัญหาจึงทำให้ผมต้องกลับมาทบทวนว่า ถึงสิ่งที่ทำอยู่มันจะดีที่สุดแล้วก็จริง แต่ก็อาจจะไม่เหมาะสม จึงต้องปรับตัวเองใหม่ทั้งหมด และมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานต่อเนื่อง ถึงแรกๆเด็กทุกคนจะมีปัญหามามากน้อยแตกต่างกัน สาเหตุมาจากหลายด้าน เช่น พื้นฐานครอบครัว การศึกษา ฐานะ การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ เป็นต้น แต่การช่วยเหลือเอาใจใส่ ใกล้ชิด ให้กำลังใจ และคอยแก้ไขปัญหา เป็นเรื่องสำคัญ จนทำให้ทุกอย่างก้าวผ่านพ้นมาได้

ขณะที่ในปีที่ 3 ได้รับรุ่นที่ 2 มาพิ่ม 4คน นับเป็นปีแรกที่มีเด็กเต็มทีม และได้เริ่มใช้สนามใหม่ ทำให้การซ้อมเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการดำเนินงานของทีมที่มีระเบียบวินัย เมื่อได้รับบทเรียนจากการทำทีมมาแล้ว 1 ปี ก็ทำให้ภายในปีนั้นเอง ทีมวอลเลย์บอลชาย อายุไม่เกิน 14 ปีของโรงเรียนอัสสัมชัญก็สามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยมาได้ทันที และในปีนั้นเองสักกะพงษ์รู้ว่าจะต้องลางานที่ทำอยู่ปัจจุบันบ่อยเพราะนอกจากจะอยู่กับนักกีฬาแล้วจะต้องไปดูตัวเด็กรุ่นที่ 3 อีก ทำให้ตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำอยู่ททั้งหมด รวมถึงการลาออกจากการนั่งอยู่ในคณะกรรมการสถานศึกษาด้วย

ปัจจุบันทีมวอลเลย์บอลชายของโรงเรียนอัสสัมชัญนั้นมีนักกีฬารวม 30 คนแล้ว และผ่านเวทีการแข่งขันมามากมาย รวมทั้งยังคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ ระดับประเทศมาอีกนับไม่ถ้วน จนทำให้ทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนนั้นกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และการดำเนินงานก็เป็นไปได้ด้วยดีตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่แรก

ผมเชื่อเรื่องธรรมะจัดสรร การฝึกสมาธิ ฝึกวิธีคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อม รวมถึงยังเชื่อในเหตุและผลของการกระทำ การมีวินัย มีใจสู้ และใฝ่ดีของเด็กๆ ที่อยู่ในทีมจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผมจะเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีนักกีฬา ไม่มีงบประมาณ ไม่สนาม แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำ ความตั้งใจและความพยายามของทุกคนก็ผลักดันให้ทีมวอลเลย์บอลชายโรงเรียนอัสสัมชัญประสบความสำเร็จได้

รวมถึงการฝึกซ้อมเป็นประจำ และการมีวินัยนักกีฬาก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสู่ความสำเร็จ โดยเราเรียนรู้จากสิ่งผิดพลาดกันตลอดเวลา ช่วงเริ่มทำทีมใหม่ๆ ก็จะซ้อมเยอะหน่อย แต่ก็ควบคู่กับการเรียนไปด้วย โดยหลังจากเรียนหลักเสร็จ ก็จะให้เด็กทุกคนเรียนพิเศษและมาซ้อมหลังจากนั้นทุกวัน กว่าจะเลิกก็ช่วงห้าทุ่ม แต่ในพักหลังเด็กทุกคนเริ่มมีความเข้าใจ และวินัย รู้หน้าที่ของตัวเองแล้วว่าควรทำอะไร ก็มีการซ้อมโดยเวลาน้อยลง และนำเวลาที่เหลือในการฝึกจิต นั่งสมาธิ ให้เด็กมีสติและมีกระบวนการคิดที่ดี รวมถึงควบคุมสติ อารมณ์ตัวเองได้ในขณะที่อยู่ในสนามซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ

ข้อจำกัดของเด็กเรานอกจากจะเป็นเริ่มตัวที่เล็กแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องประสบการณ์ด้วย จึงทำให้เด็กไม่เข้าใจกลยุทธ์ของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงยังมีวิธีคิดในการแข่งขันแบบไม่ถูกต้อง การถูกยั่วยุ ดูถูก ใช้ท่าทางหรือคำพูดที่เสียดแทงจิตใจจากฝ่ายตรงข้าม จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้นักกีฬาสติหลุดได้ง่าย การฝึกสมาธิและสอนให้เข้าใจในเกมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผมจะพูดเสมอว่าความวิริยะอุตสาหะนำมาซึ่งความสำเร็จ คนเราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและไม่โอ้อวดในเมื่อตัวเองชนะ

หลายคนชอบเหมาว่าเป็นโครงการช้างเผือกแต่ผมจะแย้งว่าไม่ใช่ เพราะผมไม่ได้เลือกเด็กที่เก่งแต่กีฬา จึงไม่เคยคิดจะรับใครยกทีม ยังมีเกณฑ์อื่นๆ เช่น ขาดโอกาส แต่รักดี เป็นต้น ผมจึงตั้งชื่อว่า โครงการ ติดตาความรู้ ต่อกิ่งคุณธรรม

มีนัยว่า ติดตาความรู้ ผมเปรียบเสมือนว่าผมเดินเข้าไปในป่าไม่ได้เจอช้างเผือก แต่กลับเจอต้นไม้ที่มีลักษณะดี รากแก้วรากฝอยแข็งแรงหยั่งลึก แต่พุ่มหรือยอดด้านบนไม่ได้สวยงาม ไม่แผ่กระจาย จึงอยากจะยกพันธ์ไม้เหล่านั้นเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่สามารถดูแลได้อย่างต่อเนื่อง น้ำดี ดินดี และอากาศดี จึงทำการติดตาต้นไม้นั้นนำออกมาจากป่า ต่อกิ่งคุณธรรม จากความหวังที่จะทำให้ต้นไม้นั้นเติบโตแข็งแรง แต่ก็ต้องมีประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อคนอื่น ต่อยอดกิ่งก้านสาขาออกไปให้ร่มเงา รู้หน้าที่ มุ่งมั่นที่จะทำสิ่งดีสู่สังคม

สักกะพงษ์กล่าวว่า การเป็นผู้ให้ ต้องเอาส่วนที่เกินจากของตัวเองให้ หากไม่มีส่วนที่เกิน ก็ต้องหาด้านอื่น มาช่วยเหลือ และจะบอกเด็กๆ ตลอดว่า เราเกิดมาจากครอบครัวที่ไม่มีกำลังทรัพย์ แต่ยังมีกำลังแรงกายจึงควรที่จะนำสิ่งที่เรามีหรือจุดเด่นเรื่องนี้ไปช่วยเหลือคนอื่น ถือซะว่าเป็นส่วนที่เกินของเรา เพื่อที่จะเป็นผู้ให้อย่างไม่ลำบากตัวเอง

ถ้าถามว่าผมมองถึงอนาคตในการทำงานตรงนี้ไว้อย่างไร? ตอนนี้ผมมองแค่ว่าตัวเองจะอยู่และทำตรงนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรง เพราะมีความสุขที่ได้ทำ หลังจากรับปากกับโรงเรียนไปแล้ว พอลงมือทำแล้วมันเห็นผลก็ภูมิใจ ผมจะดีใจทุกครั้งที่มีคนพูดถึงโรงเรียนและนักกีฬาไปในทางที่ดี เหมือนกับการสร้างบรรยากาศดีๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่อนาคตของเด็กๆ ก็อยากให้เป็นผู้ที่ทำแต่สิ่งดี ตอบแทนสังคม มีเป้าหมายไม่ได้จะช่วยแต่ตัวเอง ต้องช่วยคนอื่นได้และมีศักยภาพพอที่จะกลับมาช่วยโรงเรียนด้วย

สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือทุกคนตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะสนับสนุนด้านใดก็ตาม รวมถึงเพื่อนพี่น้องอัสสัมชนิกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สนับสนุนทุนนักกีฬา อาหารหลัก อาหารเสริมให้กับนักกีฬาของเรา เพื่อหวังว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพของตัวนักกีฬาขึ้นไปอีก จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำทีมกีฬาวอลเลย์บอลชายโรงเรียนอัสสัมชัญสามารถก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างดี